วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ข้อคิดที่ได้จากมหากาพย์กระต่ายกับเต่า

1.ไม่ควรที่จะประมาทกับงานที่เราทำจนเกินไป
2.จงภมูใจในสิ่งที่ตนเองมีอย่างภาคภูมิใจ
3.ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขออย่างเดียวเราอย่ายอมแพ้กับปัญหานั้น
4.ไม่ควรดูถูกความสามารถของตนที่มีอยู่
5.กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาหลายๆด้าน
6.ไม่มีใครที่จะดีไปซะทุกเรื่อง
7.จงสู้กับตัวเอง แต่อย่าสู้กับคนอื่น

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทิปในการใช้คอมพิวเตอร์

1.เพิ่มเสียงกดแป้นพิมพ์ให้คีย์บอร์ด
ถาม: ผมเคยใช้โปรแกรมอีเมล์ตัวหนึ่งมันจะส่งเสียงเวลากดแป้นพิมพ์แต่ละตัวบนคีย์บอร์ดให้ด้วย เสียงที่ได้ยินจะคล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่า ซึ่งผมรู้สึกดีกับมันมากๆ เนื่องจากผมพิมพ์ดีดไม่ค่อยเก่ง ส่วนตัวผมเองก็จำไม่ได้ว่า โปรแกรมอีเมล์ตัวนี้ชื่ออะไร อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการส่งเสียงแป้นพิมพ์ของมันจะไม่สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ อย่าง เวิร์ด ได้ ผมขอรบกวนให้ช่วยแนะนำโปรแกรมที่ทำงานลักษณะนี้บน Windows XP ให้ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับตอบ: ผมเดาว่า โปรแกรมอีเมล์ที่คุณเล่าให้ฟังนั้นน่าจะเป็น Incredimail แต่ก็อย่างที่คุณเล่ามาให้ฟังถึงข้อจำกัดของโปรแกรมอีกนั่นแหละที่ว่า เสียงของการกดแป้นพิมพ์จะทำงานเฉพาะในโปรแกรมอีเมล์ตัวนี้เท่านั้น
ข่าวดีก็คือ มันมีโปรแกรมที่ช่วยให้คุณได้สิ่งที่ต้องการนั่นคือ เสียงของการกดแป้นพิมพ์ที่ดังออกมาจากลำโพงที่ไม่ขึ้นกับว่า คุณกำลังใช้แอพพลิเคชันใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีอีกด้วย ตัวแรกชื่อว่า Home Typist ซึ่งการทำงานของโปรแกรมก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากส่งเสียงการกดแป้นพิมพ์อย่างที่ต้องการเท่านั้น แต่ถ้าเป็นฟรีแวร์อีกตัวหนึ่งชื่อว่า ClicKey อันนี้จะเก่งกว่าหน่อยตรงที่คุณสามารถเลือกกำหนดเสียงได้ถึง 26 แบบเลยทีเดียว ลองดาวน์โหลดไปใช้ดูนะครับ

2.Domain Name คืออะไร
Domain Name คือชื่อที่ใช้ในการอ้างอิงเพื่อไปยัง Website ต่างๆ ที่อยู่บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตชื่อที่ใช้ต้องเป็นชื่อที่ไม่มีใครในโลกใช้เพราะถ้ามีคนใช้ชื่อใดแล้วเราจะไปจดชื่อซ้ำไม่ได้ ชื่อ Domain Name จะเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็ก ไม่แตกต่างกันเพราะ ระบบอินเตอร์เน็ตจะรับรู้ตัวอักษรเป็นตัวเล็กทั้งหมด เช่น ITTradefair.com และ ittradefair.com ถือว่าเป็นชื่อเดียวกัน ส่วนประกอบใหญ่ๆ สามส่วนคือ ชื่อเครื่อง. เช่น DomainAtCost.com ,ThaiCompany.net ฯลฯ ในปัจจุบันได้มีการจดชื่อโดเมนถึงกว่า 30 ล้านชื่อทั่วโลกและ ชื่อโดเมนก็มักจะถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายการค้าของ Website ต่างๆ ด้วยโดยชื่อโดเมนจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนของชื่อ ซึ่งอาจเป็นชื่อของบุคคล นิติบุคคล องค์กร เครื่องหมายการค้า หรืออื่นๆ ที่ต้องการจะสื่อให้เป็นตัวแทนของ Website นั้นๆ เช่น DomainAtCost, ThaiCompany ฯลฯ ลักษณะการประกอบการของ Website นั้นๆ เช่น .com, .net ฯลฯ (คล้ายๆ กับคำแสดงนิติฐานะของนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด กระทรวง สมาคม องค์การ ฯลฯ กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในข้อ 3) เนื่องจากชื่อโดเมนจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการชี้ไปยัง Website ดังนั้นจึงไม่สามารถตั้งชื่อซ้ำกันได้ (ThaiCompany.net และ ThaiCompany.com ถือว่าเป็นคนละชื่อกัน เนื่องจากจดอยู่ภายใต้ลักษณะการประกอบการที่ต่างกัน แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจประกอบการในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ ควบคุม)Domain Name ทำงานอย่างไร ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จะใช้กลุ่มตัวเลข 4 กลุ่มที่คั่นด้วยจุด (ตัวเลขในแต่ละกลุ่มจะมีค่าได้ตั้งแต่ 0-255) เช่น 203.33.192.255 หรือที่รู้จักกันในชื่อของ IP Address ในการระบุตำแหน่งของ Website ต่างๆ เพื่อให้รู้ว่าอยู่บนเครื่องใดและอยู่ในเครือข่ายใด แต่เนื่องจาก IP Address อยู่ในรูปของตัวเลขซึ่งยากแก่การจดจำดังนั้นจึงเป็นการสะดวกกว่าที่จะใช้ชื่อหรือกลุ่มของตัวอักษร ซึ่งก็คือ Domain Name ในการอ้างอิงแทน โดยจะอาศัย DNS Server มาช่วยจับคู่ IP Address และ Domain name เข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อมีผู้ต้องการที่จะเรียกดู Website ของท่าน ไม่ว่าจะทราบ IP Address หรือ Domain name เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ผิดพลาดDomain Name ที่ลงท้ายด้วย .com และ .net หรือ .net และ .net.th แตกต่างกันอย่างไร ระบบของ Domain Name จะมีการจัดแบ่งออกเป็นหลาย Level โดยเริ่มตั้งแต่ Top Level ซึ่งประกอบด้วย Generic Domain (gTLD) ซึ่งได้แก่ Domain Name ที่ลงท้ายด้วย .com (Commercial), .net (Networking), .org (Non-Commercial Organization), .edu (Education), .gov (Government), .int (International), .mil (Military) .com จะใช้กับองค์กรที่แสวงหาผลกำไร .org จะใช้กับองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร .net จะใช้กับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Internet Country Code Domain (ccTLD) ซึ่งเป็น Domain Name ที่กันไว้สำหรับการใช้งานของประเทศต่างๆ ได้แก่ .th (ประเทศไทย), -.us (สหรัฐอเมริกา), .uk (อังกฤษ) และอื่นๆ .co.th จะใช้กับองค์กรที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่แสวงหาผลกำไร .or.th จะใช้กับองค์กรที่จดทะเบียนในประทศไทยที่ไม่แสวงหาผลกำไร .net.th จะใช้กับองค์กรที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Internet .in.th จะใช้กับบุคคลหรือองค์กรใดๆก็ได้ในประเทศไทย ดังนั้น .com และ .net จึงถือได้ว่าเป็น Domain Name ที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่จะต่างกันที่ลักษณะการประกอบการ กล่าวคือ .com เป็น Website ที่ประกอบการเชิงพาณิชย์ เช่น การขายสินค้าหรือให้บริการ ในขณะที่ .net จะเป็น Website ที่ให้บริการทางด้านอินเตอร์เน็ต เช่น การเชื่อมต่อหรือการส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย ส่วน .net.th จะถือเป็น Domain Name ในระดับ Secondary Level (SLD) ที่แยกมาจาก Top Level (TLD) หรือ .th อีกทีหนึ่ง ซึ่งจะหมายถึง Website ที่ให้บริการทางด้านอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย อนึ่ง การแบ่ง Level ของ Domain Name สามารถแบ่งย่อยลงมาได้เรื่อยๆ ตามหลักการของ DNS (Domain Name System) เช่น Ngo.ThaiCompany.net ก็จะหมายถึงกลุ่ม NGO ที่จด Domain Name อยู่ภายใต้ ThaiCompany.net เป็นต้นแหล่งจดทะเบียน ท่านสามารถที่จะจด Domain Name กับผู้ให้บริการรับจดรายใดก็ได้ทั่วโลก ทั้งนี้การจะจดอย่างไรจะขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน เช่น หากต้องการให้ Website มีภาพลักษณ์ที่เป็นสากล ก็ควรจดในลักษณะ .com, .net หรือ .org แต่หากว่าต้องการสื่อว่าเป็น Website ที่ให้บริการในประเทศไทย ก็ควรจดเป็น .co.th, .net.th, .or.th หรืออื่นๆ ซึ่งกรณีนี้จะต้องทำการจดกับ THNIC ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลการจด Domain Name เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น นอกจากนี้โดเมนเนมของบางประเทศ เช่น .at (Austria), .cc (Cocos Islands), .to (Tonga), .tv (Tuvalu) และอื่นๆ ก็เป็นที่นิยม เนื่องจากสามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะอย่างได้ แต่เนื่องจากเป็นของประเทศ ดังนั้นการจดก็จะต้องขึ้นกับเงื่อนไขที่กำหนดโดย Registry ของประเทศนั้นๆท่านสามารถจะจดโดเมนเองได้ที่ http://www.we.co.th ในกรณีที่ต้องการจดโดเมนของอเมริกา หรือ http://www.thnic.net/ ในกรณีที่ต้องการจดโดเมนของไทย ระยะเวลาในการเป็นเจ้าของ Domain Name เนื่องจาก Domain Name ถือเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ดังนั้นกรรมสิทธิ์ หรือความเป็นเจ้าของจะคงอยู่ตราบเท่าระยะเวลาของสัญญาที่ทำไว้กับผู้ให้บริการรับจดแต่ละราย โดยสามารถทำการต่ออายุสัญญาเป็นงวดๆ ไป (สิทธิ์ความเป็นเจ้าของ Domain Name จะเป็นของท่าน โดยข้อมูลทั้งหมดที่ลงทะเบียนไว้จะถูกเก็บอยู่ในระบบฐานข้อมูลของ NSI ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบฐานข้อมูลหลักในปัจจุบัน ข้อดีของการจดทะเบียนหลายปี ในการจดชื่อโดเมน ระยะเวลาของสัญญาจะขึ้นกับดุลยพินิจและความพร้อมของท่าน สำหรับการจดแบบหลายปี (ท่านสามารถเลือกจดได้ตั้งแต่ 1-10 ปี) เป็นการรองรับความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาค่าบริการและอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินในอนาคต เนื่องจากค่าบริการของท่านจะถูกจ่ายครั้งเดียวในตอนเริ่มต้นด้วยอัตราค่าบริการในขณะนั้น ดังนั้นจึงเหมือนกับว่าในปีต่อๆ ไปท่านก็ยังคงสามารถจ่ายค่าบริการด้วยอัตราเดิมแม้ว่าค่าบริการจะปรับตัวสูงขึ้น (เรายังคงคาดหมายว่าแนวโน้มราคาค่าบริการของตลาดโดยรวมในอนาคตจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีเนื่องจากในอนาคตการออกกฎหมายมาควบคุมการจดทะเบียนชื่อโดเมนคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ชื่อโดเมนก็ยังถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด) ดังนั้นการจดชื่อโดเมนแบบหลายปีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่น่าจะมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยท่านประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยให้ท่านไม่ต้องเสียเวลาในการต่ออายุสัญญาทุกๆ ปีอีกด้วย (หากท่านจดชื่อโดเมนกับเราไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม อายุสัญญาของชื่อโดเมนของท่านก็จะเป็นไปตามนั้น จะไม่มีการนำเงินมาหมุนใช้ก่อนแล้วนำไปจดใหม่เป็นรายปีในภายหลัง การเตรียมการเพื่อจดชื่อโดเมน ชื่อโดเมนที่ต้องการจดทะเบียน เลือกไว้สัก 3 - 4 ชื่อ ป้องกันชื่อไปซ้ำกับชื่อที่ถูกจดไว้แล้ว ผู้ให้บริการจดโดเมน ที่ต้องการไปจะจดกี่ปี ค่าบริการเท่าไร เจ้าของชื่อโดเมน (Registrant) ชื่อ พร้อมที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ถ้าหากเป็นองค์กร ให้ใส่ชื่อองค์กร ผู้ดูแลชื่อโดเมน (Administrative contact) ชื่อ พร้อมที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ผู้ติดต่อทางเทคนิคโดเมน (Technical contact) ชื่อ พร้อมที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจดโดเมน (Billing contact) ชื่อ พร้อมที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ การจดชื่อโดเมนไม่ใช่เรื่องยาก หลังจากเลือกได้แล้วว่า จะจดทะเบียนกับผู้รับจดทะเบียนรายไหน ก็เปิดเว็บไซต์ไปจดได้เลย อย่างไรก็ตาม อยากแนะนำให้ใช้วิธีการเตรียมการหลายๆอย่างไว้ก่อน เพื่อให้การจดทะเบียนทำได้รวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำ พร้อมทั้งสอดคล้องกับความต้องการมากขึ้น

3.อยากเล่นเกมส์บนคอมพ์ 2 จอ?
ถาม: ผมอยากจะต่อจอมอนิเตอร์ 2 จอเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้เล่นเกมส์ (และทำงานด้วย) เพื่อความมันส์สะใจครับ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง รบกวนช่วยแนะนำในเบื้องต้นให้หน่อยครับ จะได้ไปคุยกับร้านขายอุปกรณ์ที่ต้องใช้เพิ่มเติมรู้เรื่องครับตอบ: การติดตั้งมอนิเตอร์ 2 ตัวให้กับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ทั้งงาน และเกมส์ได้อย่างลงตัวนั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่การ์ดวิดีโอ ซึ่งส่วนใหญ่จะให้เอาต์พุตทั้งดิจิตอล และ VGA (แอนาล็อก) ในขณะเดียวกันมอนิเตอร์จอแบนที่จำหน่ายกันในปัจจุบันก็สนับสนุนการเชื่อมต่อทั้งสองระบบ ดังนั้น ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณมีวิดีโอการ์ที่มาพร้อมกับเอาท์พุตทั้งสองแบบแล้ว คุณก็สามารถเซตอัพคอมพ์ให้มี 2 จอได้ทันที แต่ถ้ามีเอาท์พุตแบบเดียว คุณก็คงต้องหาซื้อการ์ดจอตัวที่สองแล้วล่ะครับ สำหรับมอนิเตอร์อีกตัวหนึ่งที่คุณต้องซื้อเพิ่มนั้น ถ้าเป็นแฟลตพาเนล แนะนำให้ควรตรวจสอบว่า เวลาตอบสนองของการแสดงผล (response time) เป็นเท่าไร? ในที่นี้แนะนำให้เลือกที่ต่ำกว่า 12 มิลลิวินาทีลงมา ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อก็คือ ยิ่งน้อยยิ่งดีครับ

4.แกะรอยปัญหา Windows XP ไม่ค่อยเสถียร
ถาม: คอมพิวเตอร์ที่ผมใช้ทำงานอยู่บนระบบปฎิบัติการ Windows XP ครับ แต่ช่วงนี้การทำงานของมันไม่ค่อยสเถียรเท่าไร (แน่นิ่งไปบ้างเป็นครั้งคราว) ผมได้ยินมาว่า เราสามารถใช้ยูทิลิตี้ Event Viewer ตรวจสอบได้ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียด และวิธีใช้มันสักเท่าไร รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับตอบ: ยูทิลิตี้ Event Viwer จะทำหน้าที่บันทึกการทำงานต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในระบบปฏิบัติการ Windows XP บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณครับ สำหรับการเรียกใช้ยูทิลิตี้ Event Viewer ให้คลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Control Panel ดับเบิ้ลคลิกบนไอคอน Administrative Tools แล้วดับเบิ้ลคลิกบนชอร์ทคัต Event Viewer อีกทีหนึ่ง ในหน้าต่างโปรแกรมคุณจะสังเกตเห็นหมวดของการบันทึกการทำงานจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนเหตุการณ์ต่างๆ ของการทำงานที่เกิดขึ้นจะอยู่ขวามือ ดับเบิ้ลคลิกแต่ละรายการเพื่ออ่านคำอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำคุณไปสู่ต้นตอของปัญหาที่ทำให้ระบบปฏิบัติการไม่มีเสถียรภาพของการทำงาน ส่วนลิงค์ที่อยู่ด้านล่างจะให้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมมากขึ้น หรือค้นหารายละเอียดจากในเว็บไซต์ http://www.eventid.net/ ก็ได้ครับ
หน้าต่างยูทิลิตี้ Event View แสดงเหตุการณ์ที่มีปัญหาให้ทราบรายละเอียดดังรูป

5.จับสไลด์โชว์ภาพถ่ายใส่ลงแผ่นดีวีดี?
ถาม: ดิฉันต้องการส่งภาพถ่ายสมาชิกของครอบครัวกลับไปที่เมืองไทยค่ะ โดยอยากจะบันทึกไฟล์ภาพถ่ายทั้งหมดลงบนแผ่น DVD เพื่อให้คุณแม่เปิดดูในเครื่องเล่นดีวีดีทั่วไปได้ ไม่ทราบว่า ใช้ซอฟต์แวร์อะไรดีคะ?ตอบ: ถ้าคุณกำลังใช้ Windows คุณอาจต้องการตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับการจัดทำ และนำสไลด์โชว์ภาพถ่ายของครอบครัวของคุณลงบนแผ่น DVD ซึ่งตัวช่วยที่ว่านี้ ผมหมายถึงซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตอย่าง Nero, Ulead และ Roxio เพราะไม่เพียงแต่ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะช่วยสร้างสไลด์โชว์ที่สวยงามได้แล้ว มันยังเขียนวิดีโอของคุณลงบนแผ่น DVD, VCD ที่สามารถนำไปเล่นบนเครื่องเล่นดีวีดีทั่วไปได้อีกด้วย แต่ถ้าคุณใช้แมคฯ แนะนำให้ใช้ซอฟต์แวร์ iPhoto ครับ

6.ติดตั้งวินโดวส์ใหม่ ฟอนต์หายเกือบหมด?
ถาม: หลังจากฮาร์ดดิสก์มีปัญหา ทำให้ผมต้องติดตั้ง Windows และโปรแกรมทั้งหมดเข้าไปใหม่ ข้อมูลของผมหายเกลี้ยง Windows และโปรแกรมทั้งหมดกลับมาคืนชีพอีกครั้ง แต่ผมสังเกตว่า ฟอนต์เท่ห์ๆ ที่ผมใช้ประจำ (นอกเหนือจากฟอนต์หลัก) กลับไม่ยอมโชว์ในโปรแกรม Word ไม่ทราบว่า มันหายไปไหนครับ?ตอบ: ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟอนต์กันสักนิดหนึ่งก่อน ฟอนต์ส่วนใหญ่ที่มีให้คุณใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์จะมาจาก 2 หรือ 3 ทางด้วยกัน โดยชุดแรกจะเป็นฟอนต์หลัก (“core” fonts) ของวินโดวส์ ซึ่งได้แก่ Courier, Arial, Times New Roman, Symbol, Wingdings, MS Serif, MS Sans Serif และฟอนต์ไทยตระกูล UPC ส่วนฟอนต์ที่นอกเหนือจากชุดแรกนี้จะมาจากแอพพลิเคชันต่างๆ โดยพวกมันจะเพิ่มฟอนต์เข้าไปในโฟลเดอร์ Fonts ระหว่างทำการติดตั้งโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ฟอนต์ยังสามารถมาจากเครื่องพิมพ์ของคุณได้อีกด้วย โดยผู้ใช้สามารถติดตั้งเพิ่มเข้าไปได้เอง หรือดาวน์โหลดจากเว็บ ตลอดจนซอฟต์แวร์จัดการฟอนต์พิเศษ ซึ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณมีฟอนต์ให้ใช้มากมายนอกจากฟอนต์หลักที่วินโดวส์ให้มา สำหรับประเด็นปัญหาฟอนต์ “หาย” ส่วนใหญ่มักมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่แอพพลิเคชัน(ที่ติดตั้งฟอนต์แปลกๆ ที่คุณใช้) นั้นๆ ไม่ได้ติดตั้งเข้าไปในเครื่องของคุณ โดยเฉพาะเกม หรือโปรแกรมที่คุณไม่ได้ใช้แล้วถอดถอนมันออกไป อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณจำชื่อฟอนต์ที่หายไปได้ คุณก็สามารถค้นหา และดาวน์โหลดจากเว็บไซต์มาได้ครับ

7.มือใหม่ข้องใจไวรัส...ติดได้ไง?
ถาม: ผมเพิ่งสนใจคอมพิวเตอร์ได้มาร่วมปีแล้วครับ ไม่งั้นตามเด็กรุ่นใหม่ไม่ทัน ก็ได้คอมพิวเตอร์ทูเดย์นี่แหละที่ช่วยให้ผมเข้าใจคอมพิวเตอร์ขึ้นเยอะเลย กลับมาที่คำถามดีกว่าครับ คือผมอยากทราบว่า ไวรัสเริ่มต้นแพร่กระจายเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร? หวังว่าคงไม่เป็นคำถามที่ง่ายเกินไปนะครับ แต่อยากทราบจริงๆ ส่วนทีมงานจะตอบคำถามนี้ในนิตยสาร หรืออีเมล์ก็ได้ครับตอบ: ขออนุญาตตอบในเว็บไซต์ก็แล้วกันนะครับ เพราะผมเชื่อว่า คำถามของแฟนคอมพ์ทูเดย์ท่านนี้น่าจะอยู่ในใจอีกหลายคนที่อยากจะทราบเหมือนกัน แต่ทราบไหมครับว่า คำถามที่ตอบยากที่สุดกลับเป็นคำถามง่ายๆ อย่างที่คุณถามมานี่แหละ เอาเป็นว่า ผมจะลองพยายามสรุปให้เห็นภาพก็แล้วกันนะครับ บ่อยครั้งที่ผู้ใช้มักจะได้รับคำเตือนที่น่ากลัวเกี่ยวกับไวรัส โดยเฉพาะการที่พวกมันชอบเข้ามาก่อกวนการทำงานเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่จะมีผู้ใช้สักกี่ท่านที่เข้าใจว่า พวกมันมาจากไหน? และติดเข้าไปในคอมพิวเตอร์ ตลอดจนลละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้อย่างไร? น่าเศร้าใจเหลือเกินที่เหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วยิ่งนัก บางทีพวกมันก็อาศัยช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ เล็ดลอดแอบติดเข้ามาในเครื่องโดยที่ผู้ใช้ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ผู้ใช้จึงได้รับคำแนะนำให้อัพเดตไวรัสพันธุ์ใหม่ให้กับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ตลอดจนอัพเดตระบบปฏิบัติการวินโดวส์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบมีความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา จากสถิติส่วนใหญ่ไวรัสจะมาในรูปแบบของไฟล์แนบอีเมล์ เหตุผลก็เนื่องจากว่า เราใช้อีเมล์ในแต่ละวันค่อนข้างบ่อยมากทีเดียว เพียงแค่คุณมั่นใจว่า ไม่ได้เปิดไฟล์ใดๆ จากผู้ส่งที่ไม่คุ้นเคย โดยเลือกเปิดไฟล์เฉพาะผู้ส่งที่รู้จักเท่านั้น โอกาสโดนไวรัสเล่นงานก็ลดลงไปเกือบครึ่งแล้ว รองลงมาจากไวรัสที่แฝงตัวมาในรูปของไฟล์แนบก็จะเป็นพวกที่อยู่ในไฟล์ดาวน์โหลด ถ้าการใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ของคุณคือ ดาวน์โหลดโปรแกรมใหม่ๆ มาติดตั้ง เพื่อใช้งาน หรือความบันเทิงก็ตามที คุณควรจะแน่ใจก่อนว่าได้ดาวน์โหดลไฟล์ดังกล่าวจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ แต่พูดอย่างนี้มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่า คุณจะปลอดภัย เพราะมันอาจจะไม่ได้มีไวรัสติดมา แต่อาจจะทำแค่เปิดช่องทางสื่อสาร (communication port) ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เหล่ามัลแวร์บนอินเทอร์เน็ตบุกรุกเข้าไปก็ได้ วิธีง่ายๆ ก็คือ คุณไม่ควรคลิกบนหน้าต่างป๊อปอัพใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง แม้ว่า ข้อความที่ป๊อปอัพขึ้นมาจะมีแรงดึงดูดให้คลิกมากเท่าไรก็ตาม การตัดใจไม่คลิกพวกมันจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัยจากการโดนโจมตี เชื่อผมเถอะ!!! สาเหตุของการติดไวรัสอันดับสามก็คือ การแชร์ไฟล์ผ่านเครือข่าย ถ้าคุณกำลังใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่าย และคุณได้ตั้งข้อกำหนดให้คอมพิวเตอร์อนุญาตให้มีการแชร์ไฟล์กับผู้ใช้คนอื่นๆ คุณกำลังเปิดประตูต้อนรับภัยคุกคามต่างๆ มากมาย เพราะถ้าหากคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายติดไวรัส หรือหนอนเข้าไป มันคงยากที่จะหยุดไม่ให้มันชอนไชเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสในลักษณะนี้จะเหมารวมถึงการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย หลักการง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณปลอดภัยในระดับหนึ่งก็คือ ถ้าคุณไม่มีความจำเป็นต้องแชร์ทรัพยากรใดๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้กับเครือข่ายจริงๆ ก็จงอย่าแชร์เลยดีกว่าครับ ข้อเท็จจริงที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็คือ ปัจจุบันมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่คอมพิวเตอร์สามารถติดไวรัสได้ ดังนั้น ทางที่ดี อย่างน้อยที่สุดคุณควรป้องกันคอมพิวเตอร์ด้วยการติดตั้งซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส และหมั่นสแกนเครื่องอยู่เป็นประจำ เพราะเรื่องนี้กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

8.เพิ่มลายน้ำให้สไลด์ของพาวเวอร์พอยน์?
ถาม: ปกติผมใช้ไฟล์พาวเวอร์พอยน์เพื่อนำเสนองานอยู่เป็นประจำ คำถามก็คือ ผมจะสามารถใส่ลายน้ำ (watermark) รูปโลโกของหน่วยงานเข้าไปในสไลด์ได้ เหมือนกับในโปรแกรมเวิร์ด หรือเปล่าครับ เพราะผมลองพยายามหาดูแล้วแต่ไม่เจอ ถ้าทำได้ กรุณาช่วยแนะนำวิธีทำด้วยครับตอบ: ข่าวดีครับ เพราะผมกำลังจะบอกว่า คุณสามารถใส่ลายน้ำเข้าไปในสไลด์ของพาวเวอร์พอยน์ได้ทั้ง 3 เวอร์ชันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น PowerPoint 2000, 2002 และ 2003 โดยขั้นแรกเปิดสไลด์ว่าง (blank) ในโปรแกรมพาวเวอร์พอยน์ คลิกเมนู View เลือก Master คลิก Slide Master จากนั้น เลือกภาพที่คุณต้องการทำเป็นลายน้ำ โดยคุณสามารถคลิกเลือกจากคลิปอาร์ต (คลิก Insert/Picture/Clip Art) หรือเลือกใช้เป็นโลโกที่คุณออกแบบเอง และจัดเก็บในคอมพิวเตอร์ของคุณ (คลิก Insert/Picture/From File) หลังจากใส่ภาพที่ต้องการทำเป็นลายน้ำลงบนสไลด์แม่แบบแล้ว คลิกขวาบนภาพเลือกคำสั่ง Format Picture คลิกแท็บ Picture ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ Format Picture จากนั้นในดรอปดาวน์เมนู Color ให้คลิกเลือกรายการเป็น Washout (สำหรับผู้ใช้ PowerPoint 2000 รายการนี้จะถูกเรียกว่า Watermark) คลิกปุ่ม OK เพื่อเปลี่ยนแปลงภาพที่ใส่เข้าไปให้กลายเป็นลายน้ำ
หลังจากที่คุณกำหนดฟอร์แมตของลายน้ำให้กับภาพบนสไลด์เสร็จแล้ว คุณสมารถปรับขนาด และตำแหน่งของมันบนสไลด์ได้ โดยคลิกแท็บ Size เพื่อปรับขนาดภาพ ส่วนการเลื่อนตำแหน่งของลายน้ำบนสไลด์ คุณสามารถคลิกแล้วลากมันไปวางในตำแหน่งที่ต้องการได้ทันที และเมื่อคุณพอใจกับขนาด และตำแหน่งที่วางของมันแล้ว ให้คลิกขวาบนลายน้ำเลือกคำสั่ง Order คลิกเลือก Send To Back เป็นอันเรียบร้อย คราวนี้ทุกสไลด์ของคุณก็จะปรากฏลายน้ำที่ด้านหลังแล้ว
ตัวอย่าง ลายน้ำ (watermark) ที่กำหนดให้กับสไลด์แม่แบบ (master slide)

9.สั่งรัน และติดตั้งไฟล์ดาวน์โหลดอย่างมั่นใจ
ก่อนที่คุณจะติดตั้งไฟล์โปรแกรมที่เพิ่งดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต กรุณาหยุดสักครู่ แล้วฟังทางนี้ครับ ประเด็นก็คือ คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ไฟล์เหล่านั้นปลอดภัย ไม่มีไวรัส หรือโค้ดจอมป่วนเจือปนจนอาจทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณล่มการทำงาน หรือแม้กระทั่งต้องลงวินโดวส์กันใหม่ เพราะถึงแม้ซอฟต์แวร์ตัวนั้นจะดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ก็ตาม มันก็ยังอาจจะไว้ใจไม่ได้เหมือนกัน แต่ Windows XP สามารถป้องกัน และลดความเสี่ยงต่ออันตรายเหล่านี้ได้ เชื่อหรือไม่?ครั้งต่อไป เมื่อคุณต้องการสั่งรัน หรือติดตั้งไฟล์โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต หากคุณไม่แน่ใจในความปลอดภัยของมัน แนะนำให้คลิกขวาบนไฟล์โปรแกรม แล้วเลือกคำสั่ง Run As ซึ่ง Windows XP จะเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ที่มาพร้อมกับทางเลือกในการปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจก่อนคลิกปุ่ม OK เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการรัน หรือติดตั้งโปรแกรมต่อไป สำหรับการใช้คำสั่ง Run As ระบบปฏิบัติการ Windows จะยอมให้โปรแกรมอ่านข้อมูลจาก Registry ได้ แต่จะไม่ยอมให้ทำการเปลี่ยนแปลงค่าใดๆ ของ Registry หรือเข้าไปวุ่นวาย User Profiles หรือรบกวนโฟลเดอร์ My Documents ตลอดจนในไดเร็กทอรีของไฟล์ชั่วคราว (Temp files) และเดสก์ทอป ซึ่งส่วนเหล่านี้ล้วนเป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตีทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กฎเหล็กของการใช้คำสั่ง Run As ที่ควรระวังก็คือ ก่อนรันโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาด้วยคำสั่ง Run As คุณควรจะปิดการทำงานของโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้นทั้งหมดเสียก่อนด้วย มิฉะนั้น แอพพลิเคชันบางตัวที่ปลอดภัย อาจจะไม่สามารถทำงานได้ภายใต้เงื่อนไขข้อห้ามต่างๆ ที่มีอยู่ในคำสัง Run As ก็ได้ แต่หากโปรแกรมที่ติดตั้งภายใต้คำสั่ง Run As เข้าไปวุ่นวายข้อห้ามข้างต้น ก็พึงระลึกได้เลยว่า พวกมันไม่ได้หวังดีกับคอมพิวเตอร์ของคุณสักเท่าไรนัก และหากโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาสามารถสั่งรันภายใต้คำสั่ง Run As โดยผ่านเงื่อนไขหินๆ เหล่านี้ได้สำเร็จ มันก็น่าจะปลอดภัยสำหรับการใช้งานในระดับหนึ่งแล้ว

10.ช่วยล้างท่อให้ Inbox ด้วยครับ!!!
ถาม: แผนกไอทีของบริษัทเข้ามาช่วยตรวจเช็คคอมพิวเตอร์ในที่ทำงาน พร้อมกับส่งอีเมล์แจ้งผมว่า Inbox ใน Outlook ใหญ่มาก น่าจะลบเมล์ที่มีไฟล์แนบๆ ใหญ่ออกไปบ้างนะ ปัญหาคือ ฝ่ายไอทีไม่ได้บอกให้ผมทราบว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง?ตอบ: ถ้าคุณไม่ค่อยระมัดระวังตรวจตราทำความสะอาดอินบ๊อกซ์เสียบ้าง พวกมันก็จะมีพัฒนาขนาดของไฟล์ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งนอกจากจะเปลืองพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ แล้วบางทีคุณอาจจะพลาดอีเมล์ฉบับสำคัญก็ได้ หากนโยบายไอทีของบริษัทมีการควบคุมขนาดของข้อมูลที่อินบ๊อกซ์ของคุณจะสามารถจัดเก็บได้ ดังนั้น การลบอีเมล์ที่มีไฟล์แนบใหญ่ๆ ที่ไม่มีความสำคัญ อย่างเช่น รูปโฆษณาสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะช่วยให้คุณได้พื้นที่กลับคืนมาอย่างมากทีเดียว สำหรับหลักการง่ายๆ ในการล้างท่ออินบ๊อกซ์ของคุณก็คือ ให้คลิกคอลัมน์ Size ใน Inbox เพื่อให้ Outlook เรียงลำดับอีเมล์ตามขนาดที่ใหญ่ที่สุด จากนั้นเลือกลบอีเมล์ที่ไม่สำคัญ แต่มีไฟล์แนบที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งการลบอีเมล์ที่มีไฟล์แนบ 2MB แค่หนึ่งฉบับเทียบเท่ากับการลบอีเมล์ฉบับเล็กๆ เป็นร้อยฉบับเลยทีเดียว เรียกว่า อัตราแลกเนื้อ คุ้มมากต่อการลงทุนลบอีเมล์พวกนี้ ที่สำคัญมันช่วยให้คุณได้พื้นที่ของ Inbox กลับคืนมาได้มากอย่างเห็นได้ชัด ลองทำดูนะครับ

11.ฟังก์ชันพิมพ์เอกสารใน Word เพี้ยน?
ถาม: ผมเจอปัญหาแปลกๆ เกี่ยวกับการพิมพ์งานในโปรแกรม Word อยู่ครับ โดยมันชอบแสดงหน้าต่างป๊อปอัพแจ้งข้อผิดพลาดว่า "The margins of section n are outside the printable area of the page. Do you want to continue?" แต่พอผมคลิกปุ่ม Yes มันจะอิดออดอยู่พักหนึ่ง (เหมือนกำลังทำอะไรสักอย่าง) แล้วจึงพิมพ์งานให้เราโดยไม่มีปัญหาอะไร ผมพยายามเปิดตำรา หรืออ่าน help ของโปรแกรม แต่ก็ไม่พบวิธีแก้ปัญหานี้สักที รบกวนด้วยครับตอบ: ผมเองก็เคยเจอปัญหานี้เหมือน และก็เชื่อเหลือเกินว่า ผู้อ่านๆ หลายท่านน่าจะมีประสบการณ์เช่นนี้บ้าง ไม่เพียงเท่านั้น จำได้ว่า ครั้งแรกที่เจอกับปัญหานี้ ผมก็เสียเวลาแก้อยู่พักหนึ่งเหมือนกัน คำตอบก็คือ มันเป็นข้อผิดพลาดที่มีอยู่ในโปรแกรม Word โดยน่าจะเกิดจากข้อกำหนดเกี่ยวกับหน้ากระดาษที่ค้างอยู่ภายใน ซึ่งไม่ถูกรีเซตหลังจากเปลี่ยนค่าการพิมพ์ ทำให้ Word เข้าใจผิด และแจ้งข้อผิดพลาดดังกล่าวออกมา อย่างไรก็ดี มันพอจะมีวิธีแก้อยู่เหมือนกัน ขั้นแรกให้คุณคลิกเข้าไปที่คำสั่ง Print ในเมนู File จากนั้นมองหาเซคชั่น Zoom (ปกติจะอยู่มุมล่างขวาในไดอะล็อกบ๊อกซ์ Print) ตรงเมนูดรอปดาวน์ที่กำหนดขนาดของกระดาษที่จะพิมพ์ “Scale to paper size” เปลี่ยนค่าที่กำหนดจาก “No Scaling” เป็น A4 หรือ Letter ขึ้นอยู่กับขนาดกระดาษที่คุณกำลังใช้พิมพ์อยู่ในขณะนั้น แล้วคลิกปุ่ม OK ออกจากโปรแกรม Word แล้วเปิดโปรแกรมขึ้นใหม่อีกครั้ง หวังว่า คราวนี้ คุณคงจะไม่พบหน้าต่างป๊อปอัพแจ้งข้อผิดพลาดดังกล่าวอีกแล้วนะครับ

12.Defrag อย่างไร? ไม่ให้สะดุด!!!
ไอเดียของวินทิปครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมื่อเดือนที่แล้วในคอลัมน์ Smart Tip พูดถึงปัญหาการทำ Defragment ที่เริ่มต้นใหม่เอง เมื่อมันทำงานไปได้ 10-20 นาที ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก อย่างไรก็ตาม เราพบว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ได้นำเสนอไปแล้ว หากผู้ใช้ต้องการให้ Defragmenter ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไปในขณะที่ไอเดียของการแก้ข้อกำหนดเริ่มต้นของการทำงานของวินโดวส์ (Windows Startup) จะช่วยให้การจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ด้วยยูทิลิตี้ Defragmenter สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้การทำงานของยูทิลิตี้ตัวนี้สะดุด ทำงานช้าลง หรือแน่นิ่งไปเลย นั่นก็คือ โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) บนวินโดวส์ที่มักจะโผล่เด้งขึ้นมาตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแก้ไขในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเพียงแค่เปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาทำงานของพวกมันก็พอแล้ว เนื่องจากโปรแกรมรักษาหน้าจอส่วนใหญ่จะได้รับการกำหนดให้เริ่มทำงานเมื่อไม่มีการแตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 15 นาที หรือขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนกำหนดไว้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่า โปรแกรมรักษาหน้าจอมีคุณอนันต์ต่อมอนิเตอร์ แต่หากคุณต้องการรัน Defragmenter แนะนำให้ตั้งค่าเวลาทำงานของโปรแกรมรักษาหน้าจอให้ยาวนานออกไปอีกจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โปรแกรม Defragmenter หยุดชะงักชั่วคราว หรือพักยาวไปเลยก็ได้ เนื่องจากมันทำให้โพรเซสการทำงานโดยรวมของระบบช้าลงนั่นเอง บางครั้งผู้ใช้อาจจะได้รับการแจ้งข้อผิดพลาดของการทำงานในลักษณะที่ว่า Defragmenter ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมันมีภารกิจบางอย่างที่ทำให้ต้องเริ่มทำงานกันใหม่ ซึ่งหาใช่ใครที่ไหนที่ป่วนการทำงานของมัน นอกจากเจ้าโปรแกรมพักหน้าจอที่เรากำลังพูดถึงนั่นเอง
เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น ให้คุณคลิกขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป แล้วเลือกคำสั่ง Properties คลิกแท็บ Screen Saver ในช่อง Wait minutes เปลี่ยนช่วงเวลารอคอยของการทำงานเป็น 60 นาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะใช้เวลาดีแฟลกนานแค่ไหน พยายามตั้งค่าเวลาให้มากกว่าก็แล้วกัน เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK การทำเช่นนี้ ก็เพือให้ช่วงเวลาที่รันโปรแกรม Defragmenter ไม่มีอะไรมารบกวนนั่นเอง คราวนี้หลังจากที่ทำ defrag เสร็จแล้ว คุณสามารถกลับไปแก้ไขเวลาทำงานของ Screen Saver เหมือนเดิมได้แล้วครับ อ้อ...ยังไงก็อย่าลืมทำขั้นตอนที่แนะนำให้ Smart Tip ก่อนหน้านี้ด้วยนะครับ

13.QuickTime ไม่แสดงวิดีโอบนหน้าเว็บ
ถาม: ผมมีปัญหาอยู่ว่า เวลาเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ข่าว กรอบที่เป็นวิดีโอบนหน้าเว็บมักจะปรากฏเป็นสีดำ และมีรูปโลโกตัว Q ของ QuickTime พร้อมด้วยเครื่องหมายคำถาม แทนที่จะแสดงผลคลิปวิดีโออย่างที่ควรเป็น พอคลิกที่กรอบวิดีโอดังกล่าว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นผมลองอัพเดตทั้ง QuickTime และ Macromdia Flash แต่มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม พอจะแนะนำวิธีแก้ไขได้บ้างไหมครับ?ตอบ: อาการที่คุณเล่ามานี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อซอฟต์แวร์เล่นวิดีโอ QuickTime บนวินโดวส์ได้รับการตั้งค่ากำหนดให้จัดการเล่นไฟล์รูปแบบอื่นๆ นอกจากเหนือจาก .mov โดยเฉพาะความพยายามของโปรแกรมในการที่จะเล่นไฟล์ภาพเคลื่อนไหว หรือมูฟวี่ของ Macromedia Flash
วิธีแก้ก็คือ ปล่อยให้แฟลชเล่นเองจะดีกว่า ขั้นแรกคุณจะต้องเข้าไปตรวจสอบข้อกำหนดชนิดไฟล์ของโปรแกรม QuickTime เสียก่อน โดยเปิดหน้าต่าง Control Panel (คลิกปุ่ม Start/Settings/Control Panel) จากนั้นดับเบิ้ลคลิกบนไอคอน QuickTime (รูปตัว Q สีฟ้า) ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ QuickTime Settings คลิกแท็บ File Types คลิกเครื่องหมาย + หน้ารายการ Miscellaneous (ปกติจะปรากฏอยู่ในอันดับสุดท้าย) คลิกยกเลิกเครื่องหมายถูกหน้า Flash media เพียงแค่นี้ คลิปวิดีโอก็จะถูกเปิดด้วย Macromedia Flash Player แทนรูปตัว Q พร้อมเครื่องหมายคำถามแล้วครับ

14.รายงานข้อผิดพลาดใน Windows XP ไม่ปลอดภัย?
ถาม: เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้รับข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของโปรแกรม โดย Windows ถามว่า ผมต้องการรายงานข้อผิดพลาด หรือไม่ ซึ่งผมมักจะคลิกปุ่ม Send Error Report แต่ล่าสุดได้คุยกับเพื่อนๆ เขาบอกว่า ผมพลาดแล้วที่ทำเช่นนั้น เพราะนั่นหมายความว่า ผมได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โปรแกรมต่างๆ ไปให้ไมโครซอฟท์ ที่พวกเขาพูดมาเป็นเรื่องจริง หรือเปล่าครับ และที่ผมส่งไปนั้นมันเป็นข้อมูลชนิดไหน และพวกมันจะถูกนำไปใช้อย่างไร ช่วยตอบด้วยนะครับตอบ: ลักษณะการทำงานของ Windows ที่คุณพูดถึงนั้น มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า Windows Error Reporting (WER) หรือการรายงานข้อผิดพลาดบนวินโดวส์ ซึ่งระบบดังกล่าว ได้รับการพัฒนาขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่ดี โดยมีเป้าหมาย เพื่อช่วยให้วิศวกรซอฟต์แวร์ และบริษัทไมโครซอฟท์เอง สามารถแก้ไขปัญหาที่พบใน XP ตลอดจนในโปรแกรมของผู้ผลิตรายอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณได้อ่านถ้อยแถลงเกี่ยวกับนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy Statement) ของผู้ให้ข้อมูล ไมโครซอฟท์ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า รายงานข้อผิดพลาดที่ส่งมานั้น ทางบริษัทไม่ได้ต้องการข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด แต่เนื่องจากการรวบรวมข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในบางครั้งจะดึงมาจากหน่วยความจำส่วนที่เรียกว่า “stack” ซึ่งอาจมีบางส่วนของเอกสาร ข้อมูลล่าสุดที่เพิ่งส่งมอบให้กับเทางเว็บไซต์ (ข้อมูลบัตรเครดิต หรือรหัสผ่าน) ข้อมูลส่วนตัว การใช้งานครั้งล่าสุด และอื่นๆ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ คุณอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก แนะนำให้ปิดการทำงานของมันก็ได้ครับ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกขวาบนไอคอน My Computer เลือกคำสั่ง Properties (หรือกดปุ่ม Windows + Pause/Break) 2. ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ System Properties คลิกแท็บ Advanced 3. คลิกปุ่ม Error Reporting ที่อยู่ด้านล่าง
4. ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ Error Reporting คลิกเลือก Disable error reporting
5. คลิกปุ่ม OK และ OK เพื่อปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ทั้งหมด เพียงแค่นี้ Windows ก็จะไม่ส่งรายงานผิดพลาด (ที่อาจจะพ่วงข้อมูลส่วนตัวออกไป) กลับไปยังไมโครซอฟท์อีกแล้ว แต่ยังแจ้งเตือนให้คุณทราบสำหรับข้อผิดพลาดร้ายแรงที่เกิดขึ้น ลองไปทำดูนะครับ

15.สงสัยจัง Extensions คืออะไร?
ถาม: ผมเพิ่งเปลี่ยนมาใช้บราวเซอร์ Firefox เมื่อวานนี้เองครับ พอดีสังเกตเห็นว่า ในเว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดบราวเซอร์จะมีการลิงค์ Extension ให้ด้วย ไม่ทราบว่า พวกมันคืออะไร และใช้ทำอะไร จำเป็นหรือไม่ครับ?ตอบ: Mozilla Firefox เป็นโปรแกมเว็บบราวเซอร์โอเพ่นซอร์ส (Open source) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาแข่งขันกับบราวเซอร์ Internet Explorer ของ Microsoft และ Safari ของ Apple ซึ่งคำว่า โอเพ่นซอร์สหมายความว่า ไม่ว่าใครก็ตามสามารถเขียนโค้ด เพื่อแก้ไข และเพิ่มเติมประสิทธิภาพให้กับซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบนี้ได้ นักพัฒนาหลายๆ คนจึงเข้ามาช่วยกันเขียน Extension (ส่วนเพิ่มขยายความสามารถของโปรแกรม Firefox) ซึ่งเป็นโปรแกมเล็กๆ ที่สามารถทำงานร่วมกับบราวเซอร์ Firefox ได้ ยกตัวอย่างเช่น Extension บางตัวอย่างเช่น FlashGot เมื่อติดตั้งเข้าไปใน Firefox แล้ว ผู้จะสามารถดาวน์โหลดทุกอย่างที่ต้องการบนหน้าเว็บได้ภายในคลิกเดียว หรือ Extension ที่ชื่อ IE Tab ที่พัฒนาโดยโปรแกรมเมอร์ไต้หวันก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะมันสามารถเปิดหน้าเว็บด้วยกลไกการเรนเดอร์ของ IE ให้ไปปรากฏในแท็บของ Firefox ได้ สำหรับผู้ใช้ที่รักพี่เสียดายน้องน่าจะชอบ Extension ตัวนี้ ความจริงยังคงมี Extension ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยคุณสามารถเข้าไปยังหน้าเว็บรวม Extension ของ Mozilla ได้ที่ addons.mozilla.org/firefox/สำหรับการติดตั้ง Extension ก็แค่คลิกลิงค์ Install Now เพียงแค่นี้พวกมันก็จะถูกดาวน์โหลด และติดตั้งเข้าไปใน Firefox โดยอัตโนมัติแล้ว

16.ล้างฮาร์ดดิสก์ให้สะอาดหมดจด
ถาม: ผมเพิ่งซื้อคอมพ์เครื่องใหม่มาใช้ครับ และตอนนี้ ผมก็มีคนรอซื้อเครื่องเก่าของผมแล้วด้วย ปัญหาคือว่า ผมต้องการลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ของคอมพ์เครื่องเก่าออกให้สะอาดหมดจด (แบบว่ากู้คืนกลับมาไม่ได้) เพื่อนผมคนหนึ่งบอกว่าให้ Windows ฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ซ้ำก็พอแล้ว จริงหรือเปล่าครับ?ตอบ: คำสั่ง Format มักจะถูกใช้ในการเตรียมความพร้อมให้กับดิสก์ก่อนการติดตั้ง หรือติดตั้งซ้ำระบบปฏิบัติการเข้าไปในเครื่อง แต่มันไม่ได้เป็นการลบข้อมูลทั้งหมดออกไปจากเครื่อง ดังนั้นคำตอบที่ว่า ใช้โปรแกรม Format จึงยังไม่ปลอดภัย ดังนั้น ผู้ที่รู้วิธีขุดข้อมูลที่ลบ หรือฟอร์แมตไปแล้ว อาจจะสามารถปลุกฟื้นคืนชีพข้อมูลเหล่านั้นกลับมาได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ผู้ที่ต้องการลบข้อมูลออกไปจากฮาร์ดดิสก์อย่างถาวร และปลอดภัย มีอยู่ 2 วิธีด้วยกันคือ ทำให้ฮาร์ดดิสก์เสียหายยับเยินไปเลย หรือใช้ซอฟต์แวร์ยูทิลิตี้เขียนทับข้อมูลทั้งหมด ซึ่งมันอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่โปรแกรมทำความสะอาดฮาร์ดดิสก์ที่มีประสิทธิภาพ (ลบสะอาด และปลอดภัย) จะใช้วิธีสุ่มข้อมูลขึ้นมาเขียนทับลงไปในฮาร์ดดิสก์ซ้ำไปซ้ำมา 7 – 35 ครั้ง เพื่อกำจัดข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่ให้หลงเหลืออยู่ในฮาร์ดดิสก์เลยแม้แต่น้อย ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่จัดการเรื่องนี้อยู่หลายตัวเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะต้องซื้อ โดยมีราคาตั้งแต่ 40 – 50 เหรียญฯ (ประมาณสองพันบาท) ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถในการลบข้อมูล อย่างเช่น WipeDrive (http://www.whitecanyon.com/) และ CyberScrub privacy Suite (http://www.cyberscrub.com/) ข่าวดีก็คือ มันมีตัวเลือกสำหรับซอฟต์แวร์ฟรีเหมือนกัน ซึ่งก็จะมี Eraser (www.heidi.ie/eraser) และ Darik’s Boot and Nuke (dban.sourceforge.net) โปรแกรมเล็กๆ เหล่านี้สามารถโหลดลงบนแผ่นดิสก์ หรือซีดี เพื่อใช้ทำความสะอาดฮาร์ดดิสก์ให้คุณได้ครับ

17.พิมพ์รายชื่อไฟล์และโพลเดอร์เพียงคลิกเดียว
วันนี้มีวิธีง่ายๆ มานำเสนอ เป็นการพิมพ์รายชื่อไฟล์และโพลเดอร์ทั้งหมดออกมาทางเครื่องพิมพ์ ขั้นตอนการทำอาจจะยุ่งยาก แต่วิธีเรียกใช้แสนจะสบาย เราลองทำดูทีละขั้นเลย
ขั้นตอนที่ 1 สร้างไฟล์ C:\windows\printF.bat ดังรูป
ขั้นตอนที่ 2 ใส่คำสั่งลงไปในไฟล์ printF.bat โดยคลิกขวาเลือกคำสั่ง Edit แล้วพิมพ์ข้อความดังนี้ลงไป @echo off dir /og %1 > C:\windows\testF.txt notepad /p C:\windows\testF.txt echo onบันทึก ปิดไฟล์ ดังรูป
ขั้นตอนที่ 3 เปิดโปรแกรม regedit ขึ้นมา โดยไปที่เมนู Start>Run พิมพ์ regedit กดปุ่ม OK จะเปิดโปรแกรม regedit ที่ใช้แก้ไข Registry ขึ้นมา จากนั้นไปที่ HKEY_CLASSES_ROOT\Folder\shell คลิกขวาที่ shell เลือกเมนู new>key ตั้งชื่อคีย์ใหม่ว่า print จากนั้นสร้างคีย์อีกครั้ง โดยคลิกขวาที่ print เลือกเมนู new>key ตั้งชื่อคีย์ใหม่ว่า command ดังรูป
ขั้นตอนที่ 4 ภายในคีย์ command ที่สร้างขึ้น จะมีคีย์ชื่อว่า (Default) อยู่ ดับเบิ้ลคลิกที่คีย์ (Default) แล้วพิมพ์ printF.bat ลงไป ดังรูป เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้าง
ขั้นตอนที่ 5 การเรียกใช้งานให้คลิกขวาที่ไดร์ฟหรือโฟลเดอร์ แล้วเลือกคำสั่ง Print จะพิมพ์รายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ออกมาทางเครื่องพิมพ์
ตัวอย่างรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่พิมพ์ออกมา

18.อยากให้เวิร์ดช่วยพิมพ์คำที่ใช้บ่อย?
ถาม: งานหลักของดิฉันก็คือการพิมพ์เอกสารวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนตัวดิฉันรู้สึกชอบ Excel ที่มันมักจะพยายามเติมเต็มให้โดยอัตโนมัติสำหรับข้อมูลที่กำลังจะพิมพ์เข้าไปในเซลใหม่ หากโปรแกรมพบว่าดิฉันเคยพิมพ์เข้าไปแล้ว หากต้องการให้ Word ฉลาดอย่างนี้บ้างจะต้องทำอย่างไรคะ เพราะเวลาพิมพ์คำศัพท์เทคนิคที่ต้องพิมพ์บ่อยๆ จะได้ไม่พิมพ์พลาด และน่าจะช่วยให้งานพิมพ์เอกสารของดิฉันเสร็จเร็วขึ้นอีกด้วยตอบ: ไมโครซอฟท์เวิร์ดจะมีฟังก์ชัน AutoCorrect ที่ช่วยทำงานในลักษณะที่คุณต้องการได้ครับ แต่คุณสมบัติการทำงานที่ว่านี้จะเกิดขึ้นในกรณีที่คุณพิมพ์คำทั่วๆ ไปอย่างเช่น คำอวยพร วันที่ หรือวลีที่ใช้กันจนคุ้นเคย ข่าวดีก็คือ คุณสามารถเพิ่มเติมคำต่างๆ ที่อาจจะต้องพิมพ์บ่อยๆ ในเอกสารได้อย่างเช่น ชื่อคุณพร้อมนามสกุล หรือชื่อสารเคมีประหลาดๆ ที่ชื่อยาวมากได้
ในที่นี้ ทดลองเพิ่มคำว่า Hypoallergenic เข้าไป
สำหรับวิธีเพิ่มคำให้เวิร์ดรู้จัก และเติมเต็มคำเหล่านั้นให้คุณได้โดยอัตโนมัติสามารถทำได้โดยในโปรแกรม Word คลิกเมนู Tools แล้วเลือกคำสั่ง AutoCorrect ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ AutoCorrect ให้คลิกแท็บ AutoText พิมพ์คำที่ต้องการให้เวิร์ดจำได้ เพิ่มเข้าไปในฟิลด์ Enter Auto Text Entries คลิกปุ่ม Add เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK
ทดลองพิมพ์แค่ Hypo เวิร์ดก็จะแสดงคำเต็ม Hypoallergenic ขึ้นมาให้เห็น หากต้องการใช้คำนี้ก็แค่กดปุ่ม Enter เวิร์ดก็จะพิมพ์คำดังกล่าวให้ทันทีคราวนี้ลองพิมพ์คำที่เพิ่มเข้าไปในหน้าเอกสาร สังเกตว่า เมื่อพิมพ์อักษรจนถึงตัวที่สี่ โปรแกรมเวิร์ดจะแสดงคำสมบูรณ์ขึ้นมาให้ดู ถ้าคุณต้องการก็แค่กดปุ่ม Enter โปรแกรมเวิร์ดก็จะใส่คำที่สมบูรณ์ให้เข้าไปได้ทันที ง่ายดีไหมครับ

19.Outlook Express ไม่ยอมเก็บอีเมล์ที่ส่งไปแล้ว
ถาม: สองวันมานี้ ผมสังเกตว่า อีเมล์ที่ส่งออกไปโดย Outlook Express ไม่ไปปรากฏในโฟลเดอร์ Sent Items ซึ่งผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าได้แก้ไขอะไรไปบ้าง หรือเปล่า? เพราะโดยนิสัยส่วนตัวชอบทดลองปรับคุณสมบัติการทำงานต่างๆ ของโปรแกรม แต่ล่าสุดผมยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้อยู่ดี รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับตอบ: ปกติเวลาที่โฟลเดอร์ในโปรแกรม OE หยุดทำงาน มันมักจะหมายความว่ามันเต็มแล้ว หรือไม่ก็มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ขั้นแรกให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า ไม่ได้ยกเลิกการจัดเก็บอีเมล์ที่ส่งไปแล้ว โดยคลิกที่เมนู Tools เลือกคำสั่ง Options คลิกแท็บ Send ซึ่งปกติของการทำงาน เช็คบ๊อกซ์หน้าข้อความ Save copy of sent messages in the “Sent Items” folder จะต้องถูกเลือกไว้แล้ว
หากคุณผ่านการตรวจสอบในขั้นตอนแรกไปแล้ว คราวนี้ เราก็จะมาดูว่า มีอีเมล์จัดเก็บอยู่ในโฟลเดอร์ Sent Items สักกี่ฉบับแล้ว ถ้ามันยังมีน้อยกว่า 3,000 ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้ามากกว่านี้มาก คุณอาจจะต้องเพิ่มพื้นที่ว่างในการจัดเก็บให้กับโฟลเดอร์นี้แล้วล่ะ โดยอาจจะใช้วิธีลบ หรือแบ็คอัพเมสเสจเก่าๆ หรือบางทีคุณอาจจะลองใช้คำสั่ง “Compacting” ให้กับโฟลเดอร์ต่างๆ เพื่อลบขยะ หรือพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ออกไป โดยคลิกเมนู Tools เลือกคำสั่ง Options จากนั้นคลิกแท็บ Maintenance คลิกปุ่ม Clean Up Now ตามด้วยปุ่ม Compact
ถ้าทดลองแก้ไขด้วยวิธีข้างต้นแล้วยังไม่ได้อีก ก็คงเหลือวิธีเดียวแล้วนั่นคือ สร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ โดยให้คุณจัดเก็บอีเมล์เก่าทั้งหมด โดยคลิกขวาบนไอคอน Local Folders คลิก New Folder ตั้งชื่อให้กับมัน จากนั้น ลากอีเมล์ทั้งหมดจากในโฟลเดอร์ Sent Items เข้ามาไว้ในโฟลเดอร์นี้ เสร็จแล้วออกจากโปรแกรม Outlook Express เปิดหน้าต่าง Windows Explorer และคลิกเข้าไปที่โฟลเดอร์ C:\Documents and Settengs\<ชื่อบัญชีผู้ใช้>\Application Data\Identities\{GUID} (GUID ย่อมาจาก Global Unique Identifier โดยจะมีลักษณะเป็นข้อความยาวๆ ประกอบด้วยตัวอักษร และตัวเลขต่างๆ) ให้คุณลบ หรือเปลี่ยนชื่อของไฟล์ Sent Items.dbx เสร็จแล้วให้คุณลองเปิดโปรแกรม Outlook Express ขึ้นอีกครั้ง โฟลเดอร์ Sent Items อันใหม่จะถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติ คราวนี้มันน่าจะพร้อมให้บริการจัดเก็บอีเมล์ที่คุณส่งออกไปได้เหมือนเดิมแล้ว

20.มีไอคอนอีเมล์สวยๆ ไว้อวดชาวบ้าน
ภาพไอคอนที่มีอีเมล์แอดเดรสของเราแปะอยู่ จะเอาไปโพสต์ไว้บนบอร์ดก็เข้าที จะส่งแนบเมล์ไปก็เข้าท่า อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เข้าไปลองทำกันดูได้ที่ http://services.nexodyne.com/email/index.phpเมื่อเข้ามาแล้วให้คุณกรอกอีเมล์แอดเดรสของคุณเองไม่ว่าจะเป็นของ Gmail, Hotmail, Yahoo ก็มีให้เลือกเพียบ พอใส่รายละเอียดครบแล้วกดปุ่มชื่อ Generate เราจะได้ไอคอนที่มีชื่ออีเมล์ของเราแปะอยู่ พร้อมกับลิงก์สำหรับใช้อ้างอิงไอคอน หรือถ้าสะดวกก๊อบปี๊ลงบนเครื่องตัวเองก็คลิ้กที่ลิงก์ชื่อ Click Here แล้วเลือกตำแหน่งจัดเก็บไฟล์ภาพได้ตามชอบเลยครับ

21.แปลง Powerpoint เป็น PDF
เปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint ขึ้นมา แล้วเปิดไฟล์ .PPT ที่ต้องการขึ้นมา จากนั้นเลือกที่เมนู File -> Print แล้วเลือกหัวข้อ Virtual PDF Printer กด OK หน้าต่าง Save As จะเด้งขึ้นมา ตั้งชื่อไฟล์ใหม่พร้อมปรับนามสกุลให้เป็น PDF ตามต้องการได้เลยครับ

22.Defragmenter ยังไม่ทันเสร็จก็เริ่มต้นทำใหม่?
ถาม: ล่าสุด ผมมีปัญหาว่า โปรแกรมยูทิลิตี้ Disk Defragmenter เริ่มต้นทำงานใหม่ หลังจากที่มันสามารถทงานไปได้ 10% – 20% เท่านั้น พร้อมทั้งแจ้งว่า “Drive contents have changed”? ประมาณว่า มีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย รบกวนช่วยแนะนำวิธีแก้ไขด้วยครับตอบ: เป็นปัญหาคลาสสิกอีกข้อหนึ่งที่ได้ยินอยู่บ่อยมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากการที่มีโปรแกรมบางตัวกำลังทำงานอยู่ด้านหลัง (background) ที่มันยังคงเปลี่ยนแปลงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ของคุณ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โพรเซสของ defrag คิดว่า มันทำงานได้ไม่สำเร็จจนถึงขั้นต้องเริ่มต้นทำงานใหม่ซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวหมดไป แนะนำให้ลองทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. คลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run พิมพ์ msconfig ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ Open 2. ในไดอะล็อกบ๊อกซ์ System Configuration Utility เลือกแท็บ General จากนั้นยกเลิกเช็คบ๊อกซ์หน้ารายการที่อยู่ภายใต้หัวข้อ Selective Startup ดังรูป
3. คลิกปุ่ม Apply และ OK ตามลำดับ จากนั้นรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังจากรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว Windows จะเริ่มต้นทำงานด้วยโพรเซสพื้นฐานเท่านั้น ดังนั้นมั่นใจได้ว่า จะไม่มีโพรเซสใดๆ มารบกวนการทำ Defrag อีก คราวนี้คุณก็สามารถสั่งรัน Disk Defragmenter ได้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจาก Defrag เสร็จแล้ว คุณควรจะกลับไปคลิกเลือกเช็คบ๊อกซ์ที่ยกเลิกไว้ก่อนหน้านี้ โดยทำตามขั้นตอนที่แนะนำไว้ข้างต้น เพียงแต่คราวนี้เข้าไปคลิกเลือกเช็คบ๊อกซ์หน้ารายการเหล่านั้น เพื่อให้ระบบกลับไปสู่การทำงานตามปกติ เหมือนเดิมก่อนดีแฟรกนั่นเอง ลองไปทำดูนะครับ (สำหรับการเรียกใช้ Disk Defragmenter เพื่อจัดระเบียบไฟล์ที่กระจัดกระจายอยู่ในฮาร์ดดิสก์สามารถทำได้โดยคลิกปุ่ม Start เลือก All Programs ตามด้วย Accessories เลือก System Tools และ Disk Defragmenter ตามลำดับ)

23.โละไฟล์ Screen Saver ที่คั่งค้าง
โปรแกรมรักษาหน้าจอภาพเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมประเภทหนึ่งที่หลายๆ คนนิยมนำมาติดตั้งเอาไว้ในเครื่อง แต่พอติดตั้งไปสักพักเราอาจจะรู้สึกเหม็นเบื่ออยากลบมันทิ้ง แต่เนื่องจากโปรแกรมไม่ได้จัดเตรียมส่วน Uninstall มาให้ เลยทำให้มันกลายเป็นไฟล์ขยะที่สะสมอยู่ในเครี่อง
เรามาลองดูวิธีการลบแบบสะอาดกันดีกว่า เริ่มต้นให้คลิ้กปุ่ม Start -> Find -> Files or Folders คลิ้กเข้าไปในส่วนของแท็บ Advanced ในช่องเมนู Of type: ให้เลือกหาส่วนที่เป็น Screen Saver จากนั้นกดปุ่ม Find Now เพื่อค้นหาและแสดงรายการ Screen Saver ขึ้นมา จากนั้นให้เลือกลบ Screen Saver ที่ไม่ต้องการได้โดยคลิ้กเลือกแล้วกดปุ่ม Delete บนคีย์บอร์ด

24.เรียง..........ข้อมูลใน Excel
ก่อนอื่นให้สร้างตารางใน Excel ให้เรียบร้อย เพื่อใช้เป็นตัวอย่างในการเรียง เสร็จแล้วก็ให้คลิ้กเลือกเซลล์คอลัมน์ที่อยากเรียง จากตารางตัวอย่าง ถ้าคุณอยากเรียงข้อมูลตาม “ชื่อ” ก็ให้คลิ้กที่เซลล์ไหนก็ได้ของคอลัมน์ B (หรือคอลัมน์ที่เก็บข้อมูลชื่อ) จากนั้นคลิ้กที่เครื่องมือ “เรียงลำดับจากน้อยไปหามาก” หรือ “เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย”
คราวนี้ถ้าอยากเรียงข้อมูลอย่างละเอียดยิบ ขอแนะนำให้เรียงผ่านคำสั่งเมนู “ข้อมูล -> เรียงลำดับ” ซึ่งก่อนที่จะเรียกคำสั่งมาใช้อย่าลืมคลิ้กที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของตาราง มิฉะนั้นโปรแกรมจะแจ้งความผิดพลาด เราสามารถกำหนดเงื่อนไขในการเรียงได้เยอะเลย เริ่มจาก “ช่องเรียงลำดับตาม” โดยจะเรียงจากน้อยไปหามาก หรือจากมากไปหาน้อย ซึ่งถ้าบังเอิญข้อมูลที่นำมาเรียงดันซ้ำกัน เช่น ชื่อเหมือนกัน ก็สามารถเลือกเงื่อนไขของการเรียงเพิ่มเติมจากช่อง “แล้วตามด้วย”

25.แป้นพิมพ์บนหน้าจอ ??
นอกจากพิมพ์งานด้วยเสียงแทนการใช้มือพิมพ์ผ่านคีย์บอร์ดแล้ว เราก็ยังสามารถใช้แป้นพิมพ์พิเศษบนหน้าจอสำหรับการพิมพ์เอกสาร ซึ่งวิธีการก็เช่นเดียวกับเวิร์กชอปที่ผ่านมา แต่ให้คลิ้กที่ปุ่มแป้นพิมพ์บนหน้าจอแทนที่แถบเครื่องมือบนหน้าจอให้คลิ้กปุ่ม Hardwriting เมื่อปรากฏแป้นพิมพ์ขนาดเล็กบนหน้าจอ ให้ลองใช้เมาส์คลิ้กปุ่มแป้นพิมพ์บนหน้าจอเป็นข้อความ Smart training ถ้าต้องการใส่สัญลักษณ์ ให้เลือก On Screen Symbol Keyboard

26.การสร้างแผ่นบู๊ต Norton Ghost 2003
1. คลิก Start > Programs > Norton SystemWorks > Norton Ghost > Norton Ghost เพื่อเรียกโปรแกรม Norton Ghost2. คลิก Ghost Utilities บนเพนด้านซ้าย3. คลิกที่เมนู Norton Ghost Boot Wizard จะปรากฏหน้าต่าง Norton Ghost Boot Wizard ขึ้นมา4. เลือก Standard Ghost Boot Disk แล้วคลิกปุ่ม Next5. เลือกว่าต้องการให้แผ่นบู๊ตโหลดไดรเวอร์ของอุปกรณ์ใดบ้างหรือไม่ เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next6. เลือกเวอร์ชันของ DOS แล้วคลิกปุ่ม Next7. ระบุตำแหน่งที่อยู่ของไฟล์ Ghost.exe แล้วคลิกปุ่ม Next8. ระบุไดรฟ์ที่จะสร้างแผ่นบู๊ตและจำนวนแผ่นที่ต้องการสร้าง รวมทั้งระบุว่าต้องการฟอร์แมตแผ่นดิสก์เก็ตก่อนหรือไม่ เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Next9. โปรแกรมจะแจ้งรายละเอียดที่โปรแกรมจะสร้าง ให้คลิกปุ่ม Next10. โปรแกรมจะเตรียมข้อมูล ให้รอสักครู่ หากคุณเลือกให้ฟอร์แมตแผ่นดิสก์เก็ตก่อน จะมีหน้าต่างให้เริ่มฟอร์แมต ให้คลิกปุ่ม Start11. เมื่อฟอร์แมตเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Close จากนั้นโปรแกรมจะเริ่มคัดลอกข้อมูลลงแผ่นดิสก์เก็ต 12. คลิกปุ่ม Finish

27.ClearType อ่านสบายตาทั้งโน้ตบุ๊กและจอแอลซีดี
อ้างอิงจากข่าวเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 49 ไมโครซอฟท์แนะนำให้ยูสเซอร์ที่ใช้โน้ตบุ๊ก และจอแอลซีดีใช้เทคโนโลยี ClearType เนื่องจากมันทำให้การแสดงผลตัวอักษรมีความคมชัดมากขึ้น ซึ่งผลจากงานวิจัยระบุว่ามันช่วยเพิ่มความแม่นยำในการอ่านคำต่างๆ ได้อย่างถูกต้องถึง 17% อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการอ่านได้อีก 5% และช่วยให้การอ่านเกิดความเข้าใจในเนื้อหาเพิ่มขึ้นถึง 2% แต่เทคโนโลยี ClearType ไม่ถูกเปิดให้ทำงานตั้งแต่แรก ดังนั้น ผู้ใช้จำนวนมากจึงไม่ทราบว่ามีเทคโนโลยีนี้ และถึงแม้จะทราบก็ไม่รู้ว่าจะเปิดการทำงานของฟังก์ชันดังกล่างได้จากที่ไหน ? เทคโนโลยี ClearType ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับจอแอลซีดี ดังนั้นผู้ใช้โน้ตบุ๊ก หรือจอแอลซีดีจึงได้รับอานิสงส์จากเทคโนโลยีนี้ไปเต็มๆ ในขณะที่การเปิดฟังก์ชันนี้บนจอ CRT อาจทำให้ภาพที่ได้เบลอ สำหรับสวิตช์การแสดงผล ClearType ให้คลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอปเลือกคำสั่ง Properties คลิ้กแท็ป Appearance คลิ้กปุ่ม Effect… คลิ้กเลือกเช็กบ็อกซ์หน้าข้อความ Use the following method to smooth edges of screen fonts: จากนั้นเลือกดรอปดาวน์ที่อยู่ใต้ข้อความนี้เป็น ClearType คลิ้กปุ่ม Ok อีก 2 ครั้ง รีบูตเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงแล้วจะเห็นว่า มันชัดเจนขึ้นจนรู้สึกได้

28.สั่งพิมพ์เอกสารด้วยเสียงใน Word
เรื่องจริงไม่ได้อิงนิยายที่เราจะแปลงเสียงสั่งให้เครื่องพิมพ์ข้อความต่างๆ ตามที่คิด หรือจะใช้เมาส์คลิ้กแป้นพิมพ์บนหน้าจอ เพื่อพิมพ์ข้อความในเอกสาร อาจจะด้วยความขยันน้อย หรือเพราะมีทุนทรัพย์เหลือเฟือจนสามารถจัดหาอุปกรณ์ดีๆ มาช่วยในการทำงานได้ ความสามารถที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นความสามารถใหม่ที่ทำให้คุณสามารถพูดออกเสียงผ่านไมโครโฟนแล้วให้โปรแกรมพิมพ์ข้อมูลตามที่พูดได้ แต่มีข้อจำกัดที่คุณจะต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ภาษาไทยยังทำไม่ได้ (ก็คงต้องรอกันต่อไป)เริ่มต้นให้คลิ้กเมนู Tools -> Speech โปรแกรมจะนำคุณเข้าสู่การติดตั้ง ให้กดคลิ้กปุ่ม Next ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบ Finish ให้คลิ้กเพื่อจบขั้นตอนการติดตั้ง และเข้าสู่ขบวนการ Voice Trainingเพื่อให้คุณได้ฝึกการออกเสียงที่ถูกต้องรวมทั้งกำหนดรายละเอียด เช่น เพศ ช่วงอายุ คลิ้ก Next ไปจนพบ Finish อีกเหมือนเดิม คลิ้กเมนู Tools -> Speech (หรือเครื่องมือ -> คำพูด) จะมีแถบเครื่องมือขึ้นมาให้คลิ้ก Microphone ลองพูดคำว่า Computer Today ก็จะพบกับข้อความที่พูดปรากฏขึ้นบนเอกสาร

29.สำรองไฟล์ Registry ไว้ยามฉุกเฉิน
หลายครั้งที่เราได้ทิปเทคนิคแปลกๆ ในการปรับแต่งวินโดวส์โดยเข้าไปแก้ไข Registry ซึ่งถ้าแก้แล้วไม่มีปัญหาก็คงไม่เป็นไร แต่หลายครั้งที่พอปรับแต่งไปแล้ว ได้ก่อให้เกิดปัญหากับวินโดวส์ตั้งแต่เล็กๆ จนอาการสาหัสชนืดที่บูตไม่ขึ้น คราวนี้ผมมีคำแนะนำในการสำรอง Registry แบบง่ายๆ มาฝากเริ่มต้นให้คลิ้กปุ่ม Start ->Run พิมพ์ regedit กด Enter จากนั้นให้คลิ้กเมนู File -> Export แล้วเลือกตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์สำรองและตั้งชื่อตามต้องการ คลิ้กปุ่ม Save เพียงแค่นี้คุณก็จะได้ไฟล์ Registry ไปนอนกอดให้อุ่นใจแล้วครับ

30.ทำไมคอมพ์ผมทำงานช้าลง?
ถาม: เวลาทำงาน ผมชอบรันโปรแกรมหลายๆ ตัวพร้อมกัน ซึ่งแรกๆ มันก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ช่วงหลังๆ มานี่ผมพบว่า คอมพิวเตอร์ทำงานอืดอาดชอบกลจนผิดสังเกต หน่วยความจำในเครื่องตอนนี้มีอยู่ 512MB แล้ว อาการดังกล่าวแสดงว่า ได้เวลาเพิ่มหน่วยความจำอีกแล้ว หรือเปล่าครับ ผมใช้ Windows XP ครับตอบ: ขั้นแรก แนะนำให้คุณตรวจสอบก่อนว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่นั้นไม่ได้ติดไวรัส หรือพวกมัลแวร์ต่างๆ แต่ถ้าหลังการตรวจสอบปรากฎว่าทุกอย่างปกติดี มันก็เป็นไปได้ว่า ถึงเวลาที่คุณต้องเพิ่มหน่วยความจำแล้วจริงๆ ซึ่ง Windows XP สามารถรองรับหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 4GB แต่ถ้าแนะนำอย่างนี้ มันดูจะกำปั้นทุบดินไปสักหน่อย เนื่องจากอาการที่คุณเล่าให้ฟังว่า ในช่วงแรก คอมพิวเตอร์สามารถรันโปรแกรมหลายๆ ตัวที่คุณต้องใช้ทำงานพร้อมกันได้เป็นอย่างดี แต่เพิ่งจะเป็นช่วงหลังๆ ที่มันช้าลงจนสังเกตได้ ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้อีกกรณีหนึ่งก็คือ ฮาร์ดดิสก์ของคุณอาจจะเริ่มเต็ม ดังนั้น แทนที่คุณจะเพิ่มหน่วยความจำ อาจกลายเป็นว่า คุณต้องเพิ่มฮาร์ดดิสก์ตัวที่สองเข้าไปแทน อย่างไรก็ตาม ลองเทียบราคาดูว่า ถ้าต้องเพิ่มหน่วยความจำ และฮาร์ดดิสก์เพิ่มเข้าไป มันอาจหมายถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในขณะที่สมรรถนะที่ได้เท่าๆ เดิม หรือดีขึ้นเล็กน้อย สำหรับทางเลือกที่ดีกว่าก็ก็คือ ลองมองหาเครื่องใหม่ที่แรงกว่าไปเลย ซึ่งอาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มกว่านะครับ